- สัมผัสวิถีชีวิตประมงพื้นบ้านชุมชนลีเล็ด
- รับประทานอาหารใต้รสเข้มเผ็ดถึงใจ พร้อมซีฟู้ดสด ๆ กับน้ำจิ้มรสแซ่บ
- ชมการแสดงท้องถิ่น วงกลองยาวหรือการรำสุพวารีที่เล่าถึงวิถีชีวิตริมแม่น้ำของคนพื้นถิ่น
- เรียนรู้วิถีชีวิต ภูมิปัญญา อัตลักษณ์ท้องถิ่นผ่านกิจกรรม workshop การทำกะปิ การทำขนมจากและผลิตภัณฑ์จากใบจาก ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน อเมซอนเมืองไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดผ่านคลองร้อยสาย
- นั่งเรือชมหิ้งห้อยที่มีนับแสน นับล้านตัว
- เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เช่น ศาลหลักเมือง
- อาสาทำดีผ่านกิจกรรม CSR เช่น ร่วมสร้างศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์ผืนป่าชายเลน
วันแรก |
|
08:30 น. | เช็คอินที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อเดินทางไปจังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยสายการบิน Thai AirAsia |
09.50 น. | ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองสู่ท่าอากาศยานสุราษฏร์ธานี |
10.55 น. | เดินทางถึงท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี รับสัมภาระ |
11.20 น. | เดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่จังหวัดสุราษฏร์ธานีด้วยรถตู้ปรับอากาศ VIP |
12.00 น. | รับประทานอาหารกลางวันที่ร้านซุ้มกระดังงา |
13.00 น. | ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ชุมชนลีเล็ด อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราฎร์ธานี |
13.30 น. | เมื่อเดินทางถึงชุมชนลีเล็ด คุณจะได้รับการต้อนรับอย่างเป็นกันเองด้วยวงเถิดเทิงกลองยาวบรรเลงเป็นรำวงพื้นบ้าน จากวงจอมขวัญบันเทิง วงดังประจำท้องถิ่นที่เป็นการผสมผสานของเสียงจากกลอง ซอด้วง โหม่ง และฉาบ พร้อมรับน้ำฝาง (น้ำมะพร้าว) เย็นชื่นใจแก้กระหาย ขนมจากอร่อยขึ้นชื่อของชาวชุมชนลีเล็ด
พบกับกำนันประเสริฐ ผู้นำชุมชนที่จะมาบอกเล่าเรื่องราวที่มาเกี่ยวกับชุมชนว่า เมื่อสมัย ร.5 ท่านทรงเสด็จไปยังบ้านดอนทางเรือ และทรงเห็นว่าคลองสายนี้เป็นทางลัด จึงได้ชื่อว่า คลองลัด และในสมัยที่ชาวจีนย้ายถิ่นฐานเข้ามาเป็นจำนวนมากชื่อนี้ได้เพี้ยนไปเป็นคลองเล็ด จนได้มาเป็นตำบลลีเล็ดในปัจจุบันหลังจากมีการปฏิรูปการปกครองท้องถิ่น |
14.00 น. | กิจกรรม Team Building 1 : การทำกะปิ โดยความพิเศษของกะปิที่นี่คือการใช้กุ้งหัวมันแทนเคย ซึ่งจะทำให้มีรสชาติหวานกว่ากะปิทั่ว ๆ ไป การทำกะปินี้จะเริ่มจากนำกุ้งมาตากแดด เสร็จแล้วนำมาตำ และใส่เกลือลงไปในสัดส่วน 1:10 กิโลกรัม ตำไปเรื่อยๆ และหมักไว้ 2 วัน และนำมาตำต่ออีกก็จะได้กะปิแสนอร่อยนี้ ซึ่งชาวบ้านจะนำกะปิไปทำทั้งของคาวและของหวาน ตั้งแต่น้ำพริกไปจนถึงกะปิน้ำปลาหวาน โดยทางคณะจะได้รับข้อมูลเหล่านี้เพื่อนำไปคิดสร้างแบรนด์ดิ้งและ ออกแบบ packaging สำหรับเป็นไอเดียให้ชุมชนต่อไป |
กิจกรรม Team Building 2 : การแข่งขันกันทำกะปิน้ำปลาหวาน โดยมีปราชญ์ชาวบ้านมาสอนวิธีการทำ แล้วให้แต่ละทีมแยกย้ายกันไปตำเครื่องปรุงในครกหินแบบฉบับดั้งเดิมของชาวบ้านกันอย่างสนุกสนาน วิธีการทำก็ง่ายๆคือ ใส่หอมแดงและพริกลงไปก่อน จากนั้นก็ตามด้วยกะปิ น้ำตาลปี๊ป และกุ้งแห้ง ทีมไหนทำได้รสจัดจ้านถูกใจคนท้องถิ่นชุมชนชาวลีเล็ดก็จะเป็นผู้ชนะได้ของรางวัลเป็นกะปิแท้ ๆ ไป |
|
กิจกรรม Team Building 3 : ล่องเรือค้นหาสินทรัพย์ พิชิตป่า Amazon ลีเล็ด
หมายเหตุ: สามารถเลือกทำภารกิจตามความสนใจขององค์กร และ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล |
|
15.30 น. | กิจกรรม CSR กิจกรรมปลูกป่าชายเลน เริ่มรวมพลขึ้นเรือเพื่อเดินทางจากโฮมสเตย์ชุมชนลีเล็ดนำเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์ โดยจะลัดเลาะตามคูคลองของป่าชายเลนที่ทอดตัวยาวหลายกิโลเมตร เพื่อไปยังจุดปลูกต้นโกงกาง ต้นไม้ชนิดนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งพันธุ์ไม้ที่มีความสำคัญกับป่าชายเลน อย่างที่ปราชญ์ชุมชนบอกว่าต้นโกงกางเป็นต้นไม้ที่มีรากยาวไปไกล ซึ่งทำให้ดินเกาะกันจนกลายเป็นเกาะและยกให้พื้นดินบริเวณนั้นสูงขึ้น โดยกิจกรรมนี้นอกจากจะได้ทำความดีแล้วคุณจะยังได้สัมผัสป่าชายเลนอย่างใกล้ชิด และอาจจะได้เห็นปราชญ์ชุมชนโชว์เก็บหอยจุ๊บแจงที่เกิดขึ้นตามหน่อของต้นจากสด ๆ ให้ชมกันอีกด้วย |
เสร็จจากการปลูกป่าแล้วก็ซิ่งเรือไปยังจุดชมวิวที่ดีที่สุดของที่นี่ นั่นคือเขตอนุรักษ์พิเศษที่มีต้นลำพูกว่าล้านต้นต้นไม้ที่เรียงรายอยู่สองข้างทางนี้ไม่ได้แค่ทำให้เกิดความสวยงามสบายตาตามธรรมชาติ แต่ยังเป็นต้นไม้ที่ช่วยให้ผืนป่านี้เกิดความสมดุลในเชิงระบบนิเวศน์เนื่องจากรากของต้นลำพูจะช่วยยืนพื้นให้ต้นโกงกางเข้ามาติดแล้วเติบโตได้ โดยต้นไม้เหล่านี้คือตัวที่เปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นออกซิเจน จึงทำให้ป่าบริเวณนี้สมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งสามารถสังเกตได้จากการที่มีนกกระยางและอีกามาอยู่เป็นฝูงใหญ่ จากนั้นจะเดินทางไปยัง Walkway ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สามารถเดินเข้าไปในป่าเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร หมายเหตุ: กิจกรรมในส่วนนี้ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของน้ำขึ้น น้ำลง |
|
17.30 น. | เดินทางเช็คอินเข้าโรงแรมที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย |
19.00 น. | รับประทานอาหารเย็นร่วมกันที่ชุมชน คุณจะได้รับประทานทั้งอาหารพื้นบ้านพร้อมอาหารทะเลและผลไม้ประจำฤดูกันอย่างจุใจ ในขณะเดียวกัน ยังได้ชมการแสดงในชุดสุพวารีนารีที่เล่าถึงชีวิตริมแม่น้ำลำคองของคนพื้นถิ่นที่นี่ และยังได้ร่วมรำวงอย่างสนุกสนานจากวงดนตรีกลองยาวอีกด้วย |
20.00 น. | นั่งเรือชมหิ่งห้อย รวมพลขึ้นเรืออีกครั้งเพื่อเดินทางไปชมหิ่งห้อย ซึ่งชุมชนลีเล็ดนี้เป็นที่ขึ้นชื่อว่ามีจำนวนหิ่งห้อยเยอะที่สุดในประเทศไทย ซึ่งจะได้พบเห็นนั้นคือแสงระยิบระยับของหิ่งห้อยที่กำลังรอคอยคู่ของตนเต็มต้นไม้จากหลากหลายจุดในลุ่มแม่น้ำแห่งนี้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สร้างความประทับใจอย่างแน่นอน |
21.00 น. | เดินทางกลับโรงแรมที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย |
วันที่สอง |
|
07.30 น. | รับประทานอาหารเช้า |
08.30 น. | เดินทางไปยังชุมชนลีเล็ดเพื่อทำกิจกรรมร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง |
09.00 น. | กิจกรรม Team Building 4 : ร่วมกันคิดคำขวัญ หรือคำสร้างแรงบันดาลใจที่ได้รับจากการมาเที่ยวครั้งนี้ โดยจะให้เวลาทั้งหมด 10 นาทีและจะมีกำนันเป็นผู้ตัดสิน ทีมที่ได้รับคัดเลือกจะเป็นผู้เขียนป้ายคำดังกล่าวไปติดตามที่ต่างๆ ในพื้นที่ป่าชายเลน รวมถึงบริเวณ Walkway นอกจากจะเป็นการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวแล้ว สิ่งนี้ยังเป็นดั่งของที่ระลึกหรือคำขอบคุณจากผู้ที่เคยมาเยี่ยมเยียน อีกทั้งยังทำให้คนในชุมชนรู้สึกภาคภูมิใจในชุมชนของตนเอง เพื่อสร้างสรรค์ให้เป็นนิทรรศการธรรมชาติที่เรียกว่าต้นไม้พูดได้ |
10.00 น. | นั่งตากอากาศ ณ ขนำกลางทะเลเพื่อชื่นชมธรรมชาติและเก็บหอย บ้านขนำเป็นชื่อเรียกบ้านที่ตั้งอยู่กลางทะเล โดยในบริเวณนี้จะมีบ้านหลายๆ หลัง ไว้สำหรับทำฟาร์มหอยแครง ซึ่งจะมีเวลาในการชมธรรมชาติ ฟังเสียงคลื่น ตากอากาศ พร้อมเก็บภาพประทับใจก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ |
11.30 น. | กลับเข้าโรงแรมที่พัก เพื่อเก็บสัมภาระเตรียมออกเดินทางกลับ |
13.00 น. | เช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก ออกเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวัน |
13.20 น. | รับประทานอาหารพื้นเมืองในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี |
14.40 น. | สักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ในตัวเมืองสุราษฏร์ธานี |
14.50 น. | เดินทางไปยังท่าอากาศยานสุราษฏร์ธานี |
16.10 น. | เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยสายการบิน Air Asia |
17.20 น. | เดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ |